ถ้าคุณเป็นคนใช้รถใช้ถนนในกทม.และยังขับรถขึ้นทางด่วนแล้วจ่ายค่าผ่านทางด้วยเงินสด รับซื้อรถหรู.com ขอบอกว่าคุณต้องปรับมาใช้ Easypass ได้แล้ว ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องใช้? ง่ายๆ เลยคุณประหยัดเวลาเดินทาง ไม่ต้องรับใบเสร็จหรือควักหาแบงค์หรือเหรียญให้กันวุ่นวายเสียเวลาเปล่าๆ ที่สำคัญเลยคือเดี๋ยวนี้เติมเงินเข้าบัตรง่ายกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา และการเติมผ่านทางแอพฯ ยังไม่เสียค่าธรรมเนียม และต่อจากนี้คือ 5 เหตุผลว่าทำไมคุณควรมี Easypass
1.ลดเวลาการเดินทาง
เบื่อไหมกับการต้องเจอรถติดบนทางด่วน โดยสาเหตุของมหกรรมจอดรถนั่งชมวิวกรุงเทพฯ นี้มีสาเหตุหลายประการ แต่ถ้ามีอะไรสักอย่างมาช่วยลดเวลาให้คุณไปได้ไวขึ้นจะดีกว่าหรือไม่ วิธีง่ายสุดเลยคือการใช้ Easypass ที่แค่เพียงติดตั้งตัวอุปกรณ์ส่งสัญญานพร้อมกับเติมเงินใส่ระบบไว้ จากนั้นคุณก็จะเห็นช่องทางสุดโล่งราวกับเป็นแสงสว่างให้แก่คุณเวลาเจอรถติดหน้าด่านจ่ายเงิน
2.ไม่ต้องวุ่นวายกับการเตรียมจ่ายเงิน
ปัญหาโลกแตกเวลาจะขับรถขึ้นทางด่วนสุดอมตะอย่าง… เห้ย มีตังค่าทางด่วนพอหรือเปล่า? หรือ หาเหรียญสิบหรือเหรียญห้าก็ได้ไวๆ เลย!! ทั้งหมดจะมลายหมดสิ้นไปทันทีเมื่อคุณหันมาใช้ Easypass เพราะก่อนการใช้งานคุณต้องเติมเงินเข้าระบบไว้ก่อนอยู่แล้ว นอกจากนี้ถ้าใช้ไปแล้วเงินในระบบใกล้หมด ระบบก็จะเริ่มเตือนเมื่อเงินของคุณต่ำกว่า 200 บาท ด้วยเสียงสัญญาณ ปิิ๊บ 2 ครั้งขณะขับผ่านช่องอัตโนมัติ
3.ใช้ได้ทั้งทางด่วนปกติและมอเตอร์เวย์
ก่อนหน้านี้การใช้งานบัตร Easypass จะวิ่งผ่านได้แค่ด่านของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเท่านั้น ทว่าตอนนี้ได้มีการจับมือร่วมกับกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือเรียกติดปากว่า มอเตอร์เวย์ ให้ผู้ถือบัตร Easypass รวมถึงบัตร M-Pass สามารถวิ่งเข้าออกด่านเก็บเงินอัตโนมัติได้ทุกที่ เรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานอย่างมาก โดยถ้าใครขับรถผ่านด่านทับช้างขาออกช่วงเช้าจะรู้ว่ารถติดหน้าด่านหนักขนาดไหน แต่ช่องอัตโนมัติจะเห็นว่ารถไหลผ่านไปอย่างเร็วคล่องตัวกว่ามาก
4.ใช้ได้กับรถหลายคัน
ตอนแรกผมคิดว่า Easypass สามารถใช้งานได้เพียงคันเดียวที่ลงทะเบียนไว้ตอนแรกเท่านั้น ทว่าความจริงแล้วเราสามารถย้ายตัวสัญญาณหรือ OBU ไปติดตั้งที่รถคันอื่นของเราได้ เพียงแค่ไปขอรับขายึดบัตรได้ฟรีที่อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุกด่าน หรือตามจุดที่ระบุไว้
5.เติมเงินสะดวก
ปัจจุบันการเติมเงินเข้าบัตร Easypass มีมากถึง 14 ช่องทาง ไม่นับรวมการเดินถือบัตร Easypass เข้าไปเติมเงินตามอาคารด่านเก็บเงินหรือศูนย์บริการทางด่วนที่มีจุดเติมเงิน โดยช่องทางที่เพิ่มเข้ามาอีกกว่า 14 ช่องทางนี้ จะเป็นการเติมเงินผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และผ่านทางจุดชำระเงินของเอกชนที่ร่วมรายการ ยิ่งไปกว่านั้นบางช่องทางเช่น mPay, Truewallet และบางแอพฯ ก็ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินไว้จนถึงต้นปีหน้า เรียกได้ว่าเอาใจผู้ใช้งาน Easypass แบบสุดๆ